ชื่อเครื่องยา
เพชรสังฆาต
ชื่ออื่นๆของเครื่องยา
ได้จาก
ลำต้น (เถา)
ชื่อพืชที่ให้เครื่องยา
เพชรสังฆาต
ชื่ออื่น(ของพืชที่ให้เครื่องยา)
สันชะฆาต ขันข้อ(ราชบุรี) สามร้อยต่อ (ประจวบคีรีขันธ์) สันชะควด
ชื่อวิทยาศาสตร์
Cissus quadrangularis L.
ชื่อพ้อง
Cissus bifida Schumach. & Thonn., C. edulis Dalzell, C. quadrangula L., C. succulenta (Galpin) Burtt-Davy, C. tetragona Harv., C. tetraptera Hook.f., C. triandra Schumach. & Thonn., Vitis quadrangularis (L.) Wall. ex Wight, V. succulenta
ชื่อวงศ์
Vitaceae
ลักษณะภายนอกของเครื่องยา:
เปลือกเถาเรียบ เถารูปสี่เหลี่ยมเป็นครีบ เป็นข้อๆต่อกัน เห็นข้อปล้องชัดเจน ลักษณะเป็นปล้องๆ ตรงข้อเล็กรัดตัวลง แต่ละข้อยาวประมาณ 6-10 เซนติเมตร บางข้ออาจมีรากออกมาด้วย มีมือเกาะออกตรงข้อต่อตรงข้ามกับใบ ตามข้อมียางขาว เถารสร้อน ขมคัน
ลักษณะทางกายภาพและเคมีที่ดี:
ปริมาณความชื้นไม่เกิน 9% w/w ปริมาณสิ่งแปลกปลอมไม่เกิน 5% w/w ปริมาณเถ้ารวมไม่เกิน 20% w/w ปริมาณเถ้าที่ไม่ละลายในกรด ไม่เกิน 1.5% w/w ปริมาณสารสกัดเอทานอล (80%) ไม่น้อยกว่า 2.5% w/w สารสกัดน้ำ ไม่น้อยกว่า 5% w/w
สรรพคุณ:
ตำรายาไทย: เถา รสร้อนขมคัน เป็นยาแก้ริดสีดวงทวารหนัก คั้นเอาน้ำดื่ม แก้โรคลักปิดลักเปิด แก้ประจำเดือนไม่ปกติ แก้กระดูกแตกหักซ้น ขับลมในลำไส้
ตำรายาพื้นบ้านนครราชสีมา: ใช้ ต้น แก้ริดสีดวงทวารโดยหั่นเป็นแว่น ตำผสมเกลือนำไปตาก ปั้นเป็นลูกกลอน กินครั้งละ 1 เม็ด 3 เวลา
ตำรับยาสมุนไพรพื้นบ้านล้านนา: ใช้น้ำจากต้น หยอดหู แก้น้ำหนวกไหล หยอดจมูกแก้เลือดเสียในสตรี ประจำเดือนไม่ปกติ เป็นยาธาตุเจริญอาหาร
ประเทศอินเดีย: ใช้ ลำต้น เป็นยาพอกเมื่อกระดูกหัก น้ำคั้นจากต้นกินแก้โรคลักปิดลักเปิด แก้อาการผิดปกติของระดู
รูปแบบและขนาดวิธีใช้ยา:
แก้ริดสีดวงทวารหนักทั้งชนิดภายในและภายนอก เถา
1.รับประทานสดวันละ 1 ปล้อง (6-9 เซนติเมตร) เป็นเวลา 10-15 วัน ติดต่อกัน แต่การรับประทานต้องหั่นเถาบางๆแล้วหุ้มด้วยกล้วยสุก หรือมะขามเปียก หรือใบผักกาดดอง แล้วกลืนลงไป ห้ามเคี้ยว เนื่องจากเถาสดมีผลึกแคลเซียมออกซาเลตอยู่มากทำให้คันคอและระคายต่อเยื่อบุในปาก
2.รับประทานในรูปยาผงบรรจุแคปซูล 250 มิลลิกรัม รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน เป็นเวลา 5-7 วัน หรืออาจนำเถามาดองเหล้าเป็นเวลา 7 วัน แล้วรินเอาเฉพาะน้ำดื่ม
องค์ประกอบทางเคมี:
ascorbic acid (vitamin C), lupeol, carotene, calcium oxalate
การศึกษาทางเภสัชวิทยา:
ผลต่อแรงตึงตัวของหลอดเลือดดำ
สารสกัดเพชรสังฆาตมีฤทธิ์กระตุ้นหลอดเลือดดำ ให้มีความตึงตัวเพิ่มขึ้น คล้ายกับส่วนผสมของไบโอฟลาโวนอยด์ 2 ชนิด ได้แก่ ไดออสมิน 90% และฮิสเพอริดิน 10% ที่พบในตำรับยาแผนปัจจุบัน สำหรับใช้รักษาริดสีดวงทวาร
ฤทธิ์ต้านการอักเสบเฉียบพลัน
สารสกัดเมทานอลยับยั้งการบวมของใบหู และการบวมของอุ้งเท้าของหนูขาว ที่ถูกกระตุ้นด้วยสารเคมี
สารสกัดเฮกเซนที่ความเข้มข้นร้อยละ 1 และสารสกัดเอทานอลที่ความเข้มข้นร้อยละ 5 ลดอาการบวมของใบหูหนูที่เหนี่ยวนำด้วยสารเคมี ได้ที่เวลา 30 นาที ตรวจพบองค์ประกอบทางเคมีของสาร lupeol ในสารสกัดเฮกเซน
ฤทธิ์แก้ปวด
สารสกัดเมทานอลลดจำนวนครั้งที่หนูถีบจักรยืดบิดตัวจากอาการเจ็บปวดท้องเนื่องจากได้รับกรดอะซีติกที่ฉีดเข้าทางช่องท้อง และลดระยะเวลาของการเลียเท้าหลังทั้ง 2ระยะ ในการทดสอบด้วยการฉีดฟอร์มาลิน แสดว่าออกฤทธิ์แก้ปวดผ่านทั้งระบบประสาทส่วนกลาง และส่วนปลาย
การศึกษาทางคลินิก:
ไม่มีข้อมูล
การศึกษาทางพิษวิทยา:
การศึกษาพิษกึ่งเรื้อรัง (3 เดือน) ของผงแห้งส่วนเถาในหนู โดยให้ผงพืชให้หนูกิน คิดเป็น 100 เท่าของขนาดที่ใช้กับคน พบว่าไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโลหิตวิทยา ชีวเคมีของซีรั่ม จุลพยาธิของอวัยวะภายใน และไม่พบความผิดปกติใดๆ
อ้างอิง :คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัย อุบลราชธานี
http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpage&pid=95
|